AI เปลี่ยน Retail อย่างไร จาก 1,000 SKU ถึง Call Center
ทุกอย่างถูกคิดใหม่ด้วย AI
การเข้ามาของ AI ไม่ได้เปลี่ยนแค่โลกเทคโนโลยี แต่ยังพลิกวิธีคิดและกระบวนการทำงานในธุรกิจค้าปลีกแบบหน้ามือเป็นหลังมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในยุคที่ธุรกิจต้องรับมือกับ SKU นับพัน รายละเอียดของสินค้ามีความแตกต่างกันทั้งในด้าน MOQ (minimum order quantity), lead time, และ demand volatility หรือความไม่แน่นอนหรือการเปลี่ยนแปลงของปริมาณความต้องการสินค้าหรือบริการจากลูกค้าในแต่ละช่วงเวลา ดังนั้น หากไม่นำ AI เข้ามาช่วย ธุรกิจจะต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากทั้งเวลาและแรงงานในการวิเคราะห์และตัดสินใจสั่งสินค้าในแต่ละรายการ
AI ช่วยอะไรได้บ้างในโลกค้าปลีก
Demand Forecasting & Replenishment: AI สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคที่มีข้อมูลอยู่อย่างมหาศาล พร้อมช่วยคำนวณคำสั่งซื้อสินค้าในแต่ละ SKU ได้แบบเรียลไทม์ โดยอิงจาก lead time และแนวโน้มความต้องการในอดีต จึงช่วยลดสินค้าตัดจ่าย สินค้าขาดสต็อกและสินค้าหมดอายุได้
Personalized Marketing: AI อย่าง ChatGPT หรือ Claude สามารถช่วยวิเคราะห์ customer behavior และออกแบบแคมเปญการตลาดที่เฉพาะลูกค้าบุคคลได้ เช่น personalized email หรือ recommendation แบบเฉพาะตัว ทำให้แบรนด์สามารถสื่อสารได้ตรงใจลูกค้าแต่ละรายได้มากยิ่งขึ้น
Data Integration & Cleanup: ฟีเจอร์ใหม่อย่าง Computer Use ของ Claude สามารถเข้าถึงและรวมข้อมูลลูกค้า 1,000 รายที่กระจัดกระจายอยู่ใน Excel, PDF, หรือ CRM ให้รวมเป็นฐานข้อมูลเดียวได้ไม่ยาก ทำให้ได้ข้อมูลที่พร้อมใช้งานทันที
AI Presentation & Visual Tools: Napkin AI หรือ AI เครื่องมือสร้าง presentation อื่นๆช่วยวิเคราะห์ข้อมูล และออกแบบกราฟได้แบบขั้นเทพเสมือนมีที่ปรึกษาระดับโลกอยู่ในหน่วยงานเลยทีเดียว
Use Case ที่น่าสนใจที่ใช้งานได้แล้วจริง:
AI ประชุมแทนมนุษย์: “Attend for Me” ของ Google ช่วยสรุปเนื้อหาประชุมเฉพาะประเด็นสำคัญ ลดเวลาเหนื่อยล้าของผู้บริหารที่มีประชุมทั้งวัน
AI Call Center: Bland AI รับสายพร้อมกันได้สูงสุดถึง 500,000 คู่สาย พูดคุยได้อย่างเป็นธรรมชาติ และรองรับได้หลายภาษา ลูกค้าไม่รู้ตัวด้วยซ้ำนะคะว่ากำลังคุยกับ AI อยู่
สร้างแคมเปญโฆษณาเต็มรูปแบบด้วย AI ทำเสร็จภายใน 2 ชั่วโมง!